วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การทำงานของเครื่องดักฟัง ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง






ผมไม่ทราบว่า ธีรนุชจะเคยมีแฟนมากี่คนหรือไม่มีเลยผมไม่ไต่ใส่ใจ เพราะผมรักเธอว้นนี้ ไม่ใช่รักอดีตของเธอ ไม่คำเป็นว่าคนรักของผมต้องเป็นผู้ดีตกกระ...ขอให้เป็นคนธรรมดามาเกิด ตกฟากแบบผมแบบคนอื่นๆ ก็แล้วกันเพราะความเป็นไพร่กับผู้ดีมันต่างกันที่วิธีการด่า ถ้าด่าด้วยกักขระและพย้ญชนะหยาบคายล่ะก็...ไพร่ในเรือนเบี่ยแน่แท้ ส่วนผู้ดีเขาด่ากันด้วยรอยยิ้มและเสียงนุ่มนวลประเภทฟังแล้วกลับไปนอนอยู่บ้านสามวันเพิ่งรูสีกตัวว่า...“กูถูกด่า”...ผมหมั่นพาตัวเองมาให้ธีรนชค้นหน้าด้นตาจะได้ เคยชินกับความหล่อที่เกษียณอายุของผม แต่ผมมีแรงส'นบสนุนคือ ธีรนุชต้องการอย่างยิ่งที่จะเป็นคนเขียนหนังสือดังนั้นผมจึงมีเรื่องคุยกับเธอจนปากเป็นชักยนต์ เพราะธีรนุชจะชอกแชกถามเรื่องนักเขียน เรื่องหนังสือ เรื่องอนาคตของวงวรรณกรรม จนมาถึงเรื่องสายส่งหนังสือ(คนที่เอาหนังสือมาวางตามแผง) แสดงให้เห็นว่าเธอตรงสเปคที่ผมวางไว้ทุกอย่าง เช่น รักการอ่าน ต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติ ปรารถนาจะเป็นนักเขียน...ข้อหลังที่กินใจผมที่สุดเพราะผมอ่านเรื่องที่ธีรนุชเขียนแล้ว

เห็นแววรุ่งรื่งลอยเคว้งคว้างตรงหน้า เพราะธีรนุชสามารถเขียนเรื่องสั้นเรื่องเดียวให้เป็นเรื่องสารพัดแนวไต้ โดยเริ่มจากเรื่องผี ตามมาอีกสี่ห้าประโยคจะมีการฆาตกรรม แถมด้วยการเมือง โยงไปถึงเรื่องวิทยาศาสตร์ วกมาทางตลกเสียดสี และจบลงอย่างเศร้า ๆแบบนิยายนํ้าไม่ดีทั่วไป...ผมจึงทึ่งในความมานะแบบทรหดเหมือน“โคนันทวิศาล” พยายามลากเกวียนร้อยเล่มของธีรนุช จนแอบเอาความในใจมาเขียนเป็นบทกวีถึงเธอได้ห้าสิบกว่าบทมันน่าจะราบรื่นในความรักของชายหนุ่มนักกวีกับหญิงสาวอนาคตนักเขียนผู้มีอารมณ์เคลิ้มฝัน เพียงแต่ผมฝันทั่งทึ่ลืมตา แต่ธีรนุชหลับตาฝัน และยังมืเสียงกรนประกอบเป็นแบบไลท์ แอนด์ซาวน์ดเทือกนั้น ถ้าติดไฟกะพริบตามจมูกที่พะเยิบพะยาบด้วยแรงหายใจของเธอธีรนุชให้ความเป็นกันเองกับผม ให้เวลา (ที่เธอว่างจากการหลับ) กับผมอยู่เนืองเนือง...จนผมเป็นห่วงเรื่องการเรียนของเธอ เครื่องดักฟังระยะไกล เพราะดูเธอจะบ้าในการเป็นนักเขียนมากกว่าพักเรื่อยเรื่เอย(ไม่งอก)   อยากเป็นนักศึกษาความรักของผมเป็นไปอย่างหลับๆตื่นๆตามอุป-นิสัยของธีรนุช ผมรักเธอมากจนอยากให้เธอหายจาก โรคหลับไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง ผมขวนขวายหาหมอไทย หมอเทศและหมอผี มาบำบัดอาการป่วยเรื้อรังของธีรนุช แต่ไม่ได้ผลลักหมอ ทำให้ผมปวดหัวคิ้วเป็นที่สุด เพราะกลุ้มใจจนคิ้วขมวดมาชนกันกึกๆจนคิ้วร่วงไปหลายเส้นนี่ถ้าผมมีหางด้วยผมก็คงได้ปวดหางอีกอย่างแน่นอน...เพราะความรักเป็นเหตุแต่ธีรนุซมิได้ทุกข์ร้อนใจกับอาการหลับไม่เลือกกาลเทศะคงปกติสุขเหมือนที่เธอเคยมีชีวิตอยู่ เหมือนชนกลุ่มน้อยที่มีความสุขกับการทำไร่เลื่อนลอย แต่เธอชอบทำหลับเลื่อนลอย จนผมประสาทกลับ เราเคยดูหนังด้วยกันบ่อยๆ และแทบทุกครั้งผมต้องมานั่งเล่าเหตุการณ์ตอนกลางเรื่องบ้าง ตอนจบบ้าง ให้ธีรนุชฟัง เพราะเธอหลับ เครื่องดักฟังโทรศัพท์ และอีกหลายเรื่องที่ผมพร้อมใจหลับเป็นเพื่อนเธอเคียงคู่กัน

จนพนักงานเดินตวต้องมาปลุกเรากลับบ้าน เธอก็ตื่นขึ้นมาอย่างกล้าหาญองอาจสมกับมีเลือดวีรสตรีไทยในอดีต ขณะที่ผมอายพนักงานเดินตาจนแทบจะเลิกเข้าโรงภาพยนตร์โรงนี้ เพราะเรามาหลับกันถี่เหลือเกิน ใน'ระยะหลัง...ผมคงรับเชื้อไวรัสลงเปลือกตามาจากเธอแน่เลยผมเดินโขยกเขยกกลับห้องพัก เพราะใจลอยขณะเดินออกจากโรงพยาบาลจนรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างเฉี่ยวผมล้ม เหตุที่ผมต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะธีรนุช“เธอเดินหล้บในครับ”ผมย้งจำเสียงคนข้บรถตุ๊กตุ๊กบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั่น  โปรแกรมดักฟังมือถือ เพราะเดินเคียงกันข้ามถนนแล้วเธอก็เดินชนรถตุ๊กตุ๊กที่กำลังติดไฟแดงจนล้มลงผมพยายามสลัดภาพธีรนุชที่กำลังนอนหลับปุยบนเตียงเพราะฤฑธี้ยาหรือโรคหลับประจำตัวเธอไม่ทราบ หมอให้เธอนอนโรงพยาบาลสักสามชั่วโมง เพื่อจะดูผลเอกซเรย์สมอง ถ้าไม่อายหมอหรือคนไข้เตียงอื่นๆ ผมอยากจะจูบแก้มเธอสักฟอด บางทีเธออาจจะตื่นขึ้นจากการเป็นเจ้าหญิงนิทรายุคนิกส์เสียที...ผมไม่แน่ใจ แต่ที่รู้ๆคือ ผมชักจะมีอาการหลับแบบเธอบ้าง เพราะผมโดนรถมอเตอร์ไซด์เฉี่ยวนั่นแหละ ผมกำลังเดินเคลิ้มเคลิ้มพอตีรักเรื่อยเ!!เอย(ไม่งอก) ผมไม่ทราบว่า ผมจะสานต่อความรักกับ“ธีรนุช”ดี หรือปล่อยให้เธอหล้บ ๆตื่น ๆ ต่อไปตามเรื่องตามราวของเธอ เจ้าหญิงนิทราของผม...

เครื่องดักฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น